แชร์ประสบการณ์จาก 0 - 1ล้านแรก
อยากจะเริ่มทำคอร์สออนไลน์ให้ขายดี ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง?
EXPERT FASTLANE
คุณกำลังมีข้อสงสัยเหล่านี้อยู่มั้ยครับ...
หากคุณอยากที่จะสร้างธุรกิจ ที่ทำรายได้ อย่างน้อย เดือนละ 1 แสน/ ปีละ 1 ล้าน และเป็นธุรกิจที่ ยั่งยืน คุณจะได้คำตอบในซีรี่นี้ผมทำงาน Work from Home มามากกว่า 5 ปีแล้ว ด้วยรายได้หลักจากการทำคอร์สจุดเริ่มต้นก็เริ่มมาจากเป็นพนักงานประจำที่ไม่เคยทำธุรกิจเลย ก็เลยอยากที่จะมานั่งนึกว่าตอนนั้น ตั้งแต่เริ่มต้น จนถึงปัจจุบัน มีอะไรที่ผมรู้สึกว่าจะช่วยให้ทุกคนประหยัดเวลา ไม่ต้องลองผิดลองถูกเองแบบที่ผมเคยลอง
ผมจะเล่าเป็นลำดับเพราะว่าลำดับนี่มันสำคัญมาก เพราะว่าพอผมทำมาเยอะมากๆตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมามันทำให้ผมเห็นว่า ต่อให้ขนาดทำมานานก็ยังมีโอกาสที่จะผิดพลาดได้ ผมทำผิดพลาดมาหลายคอร์สมากๆแต่หลังจากเข้าใจแก่น โอกาสสำเร็จ ก็มาอย่างต่อเนื่องจนแทบจะไม่พลาดเลยซึ่งพอทำมาเยอะๆเข้าก็มานั่งดูว่า “ทำไมมันถึงผิดพลาด?” แล้วทำไมบ้างคอร์สถึงประสบความสำเร็จทะลุเป้าที่ต้องการ พอมานั่งเทียบๆดูก็พอที่จะเห็นความเชื่อมโยงบางอย่าง
ดังนั้นในซีรี่บทความนี้ ผมเลยจะเอามาเล่าให้ทุกคนฟังว่ามันมีวิธีคิดอย่างไรบ้าง และใน หน้าถัดไป หลังจากนี้ผมจะเล่า โมเดล Step by Step ที่ทำให้สร้างรายได้ แบบยั่งยืนให้คุณฟัง
เนื่องจากช่วงนี้ทุกคนอาจจะอยู่ในสถานการณ์เครียดในเรื่องต่างๆผมก็อยากจะช่วยและชี้แนะว่า ถ้าเป็นผมในตอนนี้ ผมสามารถทำอะไรได้บ้างและก็เชื่อว่ามันจะสามารถช่วยให้ทุกคนนำไปประยุกต์ใช้ได้ ด้วยความที่การทำคอร์สออนไลน์ เป็นหนึ่งในธุรกิจที่ใช้อุปกรณ์น้อยและเราสามารถทำมันได้ด้วยตัวคนเดียวแม้ว่าจะอยู่ในช่วง work from home ก็ไม่มีปัญหา
ก่อนที่จะไปแชร์ขั้นตอนที่ถูกต้องแบบยั่งยืน ผมอยากจะเล่า สิ่งที่ผมผิดพลาด ให้คุณฟังกันก่อน เพราะถ้าคุณเร่งรีบ ไม่ทำความเข้าใจส่วนนี้คุณอาจจะไม่อิน กับ Step ที่ถูกต้องที่ผมกำลังจะเล่าก็ได้เพราะไม่อยากให้คุณต้องพลาดเหมือนที่ผมเจอจริงๆนะ
สมัยก่อนตอนที่ผมเริ่มต้นใหม่ๆผมเป็นคนแนวชอบการเรียนรู้มาก เมื่อผมชอบเรียนรู้ผมก็จะติดกับดักอย่างหนึ่งก็คือ “เป็นคนที่จะต้องรู้ ต้องลงลึก เมื่อยังไม่รู้อะไรก็จะต้องเรียน” ซึ่งเมื่อก่อนนั้นผมมีความเชื่อว่า....
การที่เราจะประสบความสำเร็จในการทำคอร์ส หรือธุรกิจในด้านนี้…ผมต้องยิงแอดเก่งมากๆ
พอผมมีความเชื่อแบบนี้ทำให้ผมมุ่งไปศึกษาเรื่องการยิงแอดมาก สรรหาตำรา คอร์สเรียน หรือใครที่เก่งมากๆเราก็จะพยายามเรียนรู้จากเขา เพราะเกิดจากการที่เราเชื่อว่า“ถ้าเรายิงแอดเก่ง จะทำให้เราขายดี!” มีใครเป็นแบบผมบ้างครับ?
พอเราเชื่อแบบนี้เลยทำให้เราไปลงลึกเรื่องเทคนิคเป็นหลักทั้งการยิงเขียนคอนเทนต์ (Copywriting) แนวการใช้คำ ทำให้คนอ่านรู้สึกสนใจ คล้อยตามจนอยากได้อยากซื้อเมื่อผมเชื่อแบบนั้น ผมก็ลุย ลงลึกกับมัน
จนสุดท้ายผมค้นพบว่า ผมยิ่งเรียนรู้มันมากเท่าไหร่ แทนที่ผมจะรู้ลึกกลับกลายเป็นผมรู้สึกว่า มันมีอะไรหลายๆอย่างที่ผมไม่รู้เต็มไปหมดจนเกิดความสับสน แทนที่เรียนแล้วเราจะทำเงินได้มากขึ้นจากความรู้ที่ได้มาแต่กลายเป็นว่าทำเงินได้น้อยลง หรือเผลอๆคือไม่ได้อะไรเลย นั้นเพราะว่า ผมติดกับดัก การเป็นนักเรียนดีเด่นเพราะผมรู้สึกว่ามันมีเรื่องที่ผมไม่รู้เต็มไปหมด
และผมต้องการที่จะรู้มันทุกเรื่อง เช่น เมื่อผมเรียนยิงแอด แล้วมันต้องมีส่งไปเว็บ ผมก็ต้องเรียนรู้เกี่ยวกับการทำเว็บเพิ่มเข้าไปอีกเว็บไม่สวยเดี๋ยวคนไม่สนใจ ก็ต้องเรียนรู้การทำรูปภาพ กราฟฟิค ต่อไปเรื่อยๆไม่รู้จบ เทคนิคต่อเทคนิค ซึ่งนี้คือสิ่งที่ผมเป็นในสมัยก่อน ผมเป็นแบบนี้จริงๆ เรียนเยอะมากๆ แต่ผมทำเงินจากที่ผมเรียนเยอะขนาดนี้ไม่ได้เลยมันเลยทำให้ผมรู้ว่า
“การเรียนอย่างเดียว ไม่ได้การันตี หรือทำให้ผมสำเร็จได้”
วันนี้ผมอยู่ในจุดที่ผมเข้าใจสิ่งที่ผมเป็นวันนั้นแล้วแต่ก็อยากจะเล่าให้ทุกคนได้ฟังเผื่อมันจะช่วยสะท้อนให้ทุกคนที่เคยคิดแบบที่ผมเป็นและก็ผมเห็นคนอื่นที่เริ่มต้นทีหลังผม ที่เพิ่งจะเข้ามาทำธุรกิจแบบเดียวกัน เขารู้น้อยกว่าผม ไม่ได้เรียนเยอะเท่าผม เช่น เขาทำเว็บไม่เป็นเลย ยิงแอดก็ไม่ได้เก่ง แต่เขาทำเงินได้ในขณะที่ผมทำไม่ได้ หรือทำไม่ได้เท่าเขา ผมก็มานั่งคิดตีโพยตีพาย จนไปคิดว่า หรือว่าตลาดที่ผมทำมันไม่รุ่งแล้ว? หมายถึงตลาดนั้นมีคู่แข่งเยอะเกินไป
หรือว่าจะเป็นผมไม่ใช่เจ้าแรกๆที่เข้ามาทำ?
กลายเป็นข้อสงสัยมากมายเต็มไปหมดผมควรจะเริ่มต้นอย่างไรดี ผมควรจะทำตลาดไหนดีทำออนไลน์เรื่องอะไรดี ทีมันจะทำเงินให้ผมได้สัก
5 หมื่น ถึง 1 แสนบาท เพราะตอนนั้นผมยังทำงานประจำอยู่ แต่อยากจะมีแนวการใช้ชีวิตแบบไม่อยากเดินทางบ่อย
ย้อนไปเมื่อก่อนตอนนั้นผมต้องเข้าที่ทำงานผมต้องนั่งรถ 2แถวออกจากซอยหมู่บ้านใช้เวลาประมาณ 20 นาที แล้วต่อรถไฟฟ้าอีก 30-40 นาที จากนั้นนั่งรถบัสจากสถานีรถไฟฟ้าต่ออีก แล้วยังจะต้องนั่งวินมอเตอร์ไซต์เข้าไปนั่งที่ทำงานอีกทีหนึ่งในคือชีวิตตอนผมทำงานประจำตอนนั้นผมต้องเดินทางแบบนี้ทุกวัน ผมก็เลยฝันที่อยากจะทำออนไลน์มากกว่าเพราะมันไม่ต้องเดินทาง หรือใช้เวลาเดินทางไปมาในแต่ละวันมากเท่าที่เป็นอยู่
แต่ตอนนั้นผมก็ไม่รู้ว่าจะทำออกมาในรูปแบบไหน อยากทำมันให้สำเร็จ แต่มันก็ไปไม่ถึงสักที เพราะผมติดกับดักอยู่ 1 เรื่องนั้นก็คือ “ผมเปลี่ยนสิ่งที่ผมสนใจหรือตั้งใจ บ่อยมาก” เช่น ตอนนี้ในตลาดเขาบอกกันว่า ถ้ารู้เรื่องนี้แล้วจะรวย ผมก็ไปเรียนในทันทีจะมีกี่คอร์สผมลงหมดแต่ผมเรียนอย่างเดียว ไม่ได้ลงมือทำเลยแล้วเมื่อผ่านไปสักพักผมก็เริ่มรู้สึกว่า มันไม่น่าจะรอดแล้ว มันคงไม่ใช่เพราะมันเริ่มที่จะทำแบบนั้นไม่ได้
สาเหตุที่มันไม่ได้ ไม่ใช่เพราะมันไม่รอดหรือเป็นไปไม่ได้แล้ว
แต่มันเป็นเพราะ “ผมไม่ได้ลงมือทำ” เพราะผมไม่ทำหรือทำน้อยมากๆ ผมก็เปลี่ยนเรื่อง เปลี่ยนความสนใจไปใครบอกลองเรียนอันนี้สิ
ทำเงินดีช่วงนี้ ผมก็ไปในทันทีอีกเช่นเคยเพราะผมนั้นคิดว่า “เออ มันฟังดูเข้าท่ากว่า มันฟังดูง่ายกว่า น่าจะประสบความสำเร็จได้เร็ว”
ผมก็เปลี่ยนเลยครับแล้วผมก็ไปเรียนวนไปเหมือนเดิมแทบจะไม่ลงมือทำเลยหรือถ้าทำ ก็ทำไม่สุด ทำน้อยมากๆ เต็ม 100% ทำไปแค่ 10% ไม่เกิน เลยทำให้รู้สึกว่า มันยากขึ้นมา พอมันยากเราก็เปลี่ยนใจอีก
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ผมเป็นจริงๆ คือ เรียน-ไม่ลงมือทำ-เปลี่ยนใจเปลี่ยนเรื่อง วนอยู่เช่นนี้นานมากๆ โชคดีที่ตอนนั้นที่ทำงานของผมมอบหมายให้ผมทำการตลาดซึ่งตอนนั้นที่ทำงานผมเป็นเหมือนคล้ายๆ Agency
แต่ก็มีขายคอร์สเรียน ขายหนังสือ ต่างๆอยู่ด้วย ซึ่งผมตอนนั้นโดนบังคับว่าต้องวางแผนการตลาด ในมุ่งเน้นเรื่องนี้ซึ่งถ้าเป็นแค่ตัวผม ผมก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆจนตัวเองสับสนอย่างที่เล่าไป
ที่นี้ทางที่ทำงานเขาก็มอบหมายงานวางแผนทำตลาดมาให้ผมเพราะ มีแค่ผมที่รู้เรื่องการยิงแอด หรือรู้เรื่องในแนวนี้เยอะพอมันเป็นงานที่บังคับมา มันก็เหมือนการบังคับตัวผมเองไปในตัวไม่ให้เปลี่ยนไปเปลี่ยนเหมือนงานส่วนตัวและต้องทำซึ่งชิ้นงานหรือคอร์สที่ผมต้องทำตลาดตอนนั้นเป็นเรื่องที่ผมเองไม่ได้ถนัดเลย
นั้นหมายความว่าตัวผมที่มีความเชื่อว่าก่อนหน้านี้เราเก่งน้อยเกินไป มันส่งผลให้ผมไม่กล้าที่จะลงมือทำเพราะรู้สึกว่าตัวเองยังไม่พร้อม ยังรู้น้อยต้องเรียนรู้มากกว่านี้อีก ผมถึงจะสามารถออกมาทำคอร์สหรือออกมาสอนใครได้ ผมจึงมีหลายไอเดียที่ดี แต่ก็ต้องพับเก็บไป
พอมันเป็นงานที่ทางหัวหน้ามอบหมายมา แล้วเป็นเรื่องที่เราไม่ถนัด
ผมเลยต้องมานั่งคิดละว่า เราจะทำอย่างไร นอกจากนี้ก็มีโจทย์อีกอย่างก็คือ
เมื่อได้โจทย์เสริมมาดังนี้แล้ว ผมก็มานั่งคิด ตั้งใจและจดจ่ออยู่กับมัน ปรากฎว่าผมสามารถวางแผนขายคอร์สนี้ได้ยอดขายหลักแสนจนถึงหลักล้านได้ ด้วยการตลาดออนไลน์
ทั้งที่ตัวผมเองที่เคยลองมาเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก ยังไม่กล้า ยังกลัว ยังทำไม่ได้เพราะเราคิดว่าเรายังไม่เก่งพอ และทำไม่สำเร็จสักที พอต้องมาทำโจทย์บังคับและเราต้องทำเพราะมันคืองานของเรา
เรากลับทำได้และทำได้ดีด้วย ผมเลยตกผลึกได้หลายเรื่องตอนนั้น แล้วก็มาเรียงลำดับเพื่อที่
จะเล่าให้ทุกคนได้ฟังในวันนี้ว่า
Process ที่ Work ตอนนั้น ที่ทำให้สามารถขายคอร์สได้ แม้ว่าจะไม่ถนัดตลาดนั้นเลย
ผมจึงได้ลำดับความสำคัญใหม่ดังนี้ ต้องเริ่มจาก Mindset
ที่จะส่งมอบคุณค่า ตอบโจทย์ได้ดีกว่าเดิม
นี่คือ 8 step ที่ผมใช้ซ้ำๆ มาแล้วในหลายธุรกิจ ตอนที่ทำงานประจำ และตอนออกมาทำเอง และในฐานะที่ปรึกษา
นอกจาก 8 step ที่ผมสรุปมาให้แล้ว อีกความลับที่อยากจะแบ่งปันเพื่อให้คุณสำเร็จได้ไวขึ้นก็คือ
ไอเดีย ดีๆ 1 idea สามารถสร้าง Product ได้ถึง 10 รุปแบบในแต่ละรูปแบบ และสามารถคิดราคาได้แตกต่างกันหากคุณกำลังสับสนว่าจะทำ Ebook/หนังสือ หรือคอร์ส รูปสัมมนาดีบทความถัดไป จะช่วยให้คุณเข้าใจ
Product แต่ละประเภทมากขึ้นและคุณสามารถ ถึงเป้า 1 แสนบาท ได้ง่ายขึ้นด้วย
ผมก็คงต้องตอบเลยว่าก็ต้องกล้าที่จะซื้อโฆษณา mindset ตรงนี้สำคัญมากๆนะครับ หลายๆคนที่ผม consult วางเนื้อหาดีมาก คอร์สดีมากๆ แต่ปัญหาอไม่ใช่คอร์สขายไม่ได้แต่คนที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย ไม่สามารถรับรู้ได้ว่ามีคอร์สนี้อยู่ในตลาดนี่คือช่องทางการทำโฆษณา